สบู่แบบกวนร้อน (Hot Process : HP)

จะเริ่มขั้นตอนการทำแบบสบู่กวนเย็น (Cold Process) โดยจะกวนให้เนื้อสบู่เป็นไลท์-มีเดียมเทรซ (Light-Medium trace) แล้วจึงจัดเทเนื้อสบู่ที่ได้ลงหม้อตุ๋น (Slow cook ที่ตัวหม้อเป็นเนื้อเซรามิค)

ระหว่างการกวนสบู่ จะตั้งไฟที่ร้อนสุด (High) ประมาณ 5-10 นาที ก่อนเทเนื้อสบู่ลงไป และจะทำการลดไฟเป็นไฟอ่อน (Low) เมื่อเทสบู่ลงหม้อตุ๋น การตุ๋นจะใช้เวลาประมาณ 40 นาที ถึง 1 ชม. สำหรับสบู่สูตรนํ้ามันไม่เกิน 1 กิโลกรัม หรือต้องใช้เวลามากขึ้นหากสบู่มีปริมาณที่มากขึ้น ซึ่งจำเป็นต้องใช้หม้อตุ๋นขนาดใหญ่

 

ระหว่างการตุ๋น เนื้อสบู่จะค่อยๆ เจลหรือสุกจาก รอบๆ หม้อตุ๋น โดยจะเปลี่ยนสีจากเนื้อครีม เป็นสีนํ้าตาลอ่อนใส (ความเข้มของสีจะเปลี่ยนไปตามนํ้ามันในสูตร) หากสบู่ไม่เกิดการฟูล้นหม้อ (การฟูเกิดจากสูตรที่มีนํ้ามันแข็งมาก ทำให้เกิดความร้อนสูง เนื้อสบู่จะฟูขึ้นหม้อ ทำให้ต้องคอยสังเกตและคนให้สบู่กลับลงไปก้นหม้อ) ไม่ต้องทำการเปิดฝาเพื่อคนเลย เพราะการเปิดฝาหม้อบ่อยๆ จะทำให้เนื้อสบู่เกิดการสูญเสียนํ้า ความชื้นจากเนื้อสบู่โดยไม่จำเป็น หากจำเป็นจะคนเพียง 1-2 ครั้งเท่านั้น

 

เมื่อสบู่สุกจะมีลักษณะเป็นเนื้อเจลแบบแยมแอปเปิ้ลหรือมันบดทั่วทั้งหม้อ (ขึ้นอยู่กับสีของนํ้ามันที่ใช้ในสูตร) ตักขึ้นผสมสีในชามแบ่งที่จัดเตรียมไว้ (หากทำสีเดียวสามารถใส่สีลงในหม้อแล้วกวนได้เลย แต่สีบางตัวอาจเกิดเพี้ยนได้) เมื่อผสมสีเข้ากันได้ดี ดูเนียน เรียบแล้ว เทนํ้าหอมใส่แล้วคนให้เข้ากันอีกครั้ง จึงตักลงโมลด์ที่เตรียมไว้ สามารถเคาะหรือกระแทกโมลด์ที่พื้น เพื่อให้เนื้อสบู่จับตัวกันแน่นขึ้น หลังจากเทลงโมลด์เสร็จจะต้องทิ้งไว้อย่างน้อย 12-48 ชม. (ขั้นอยู่กับนํ้ามันที่ใช้ในสูตร อาจจะต้องใช้เวลาที่นานขึ้น หากใช้ปริมาณนํ้ามันอ่อนมากขึ้น เพราะเนื้อสบู่จะนิ่ม) ก่อนที่จะตัดแบ่งเป็นก้อนเล็ก

 

สบู่ประเภทกวนร้อนตามทฤษฎีค่าด่างจะทำปฎิกริยา Spon จะหมดแล้วจากความร้อนในหม้อตุ๋น ซึ่งค่า ph ลดลงจนสามารถใช้ฟอกผิวได้  ดังนั้นหลังจากตัดสบู่แล้วสามารถนำไปใช้ได้เลย แต่ในที่นี้วิเวียนขอให้ตากสบู่หรือเรียกว่าการบ่มสบู่ (Cure) ทิ้งไว้อย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพราะสบู่แบบกวนร้อนจะมีความนิ่ม จากการกักเก็บนํ้าที่ทำในสูตรเหมือนสบู่กวนเย็น ซึ่งระหว่างสบู่การบ่มนี้สบู่จะคายนํ้าออกเรื่อยๆ ทำให้สบู่แข็งตัวมากขึ้นและมีความละมุนในการใช้งาน